"กินนูหรี" หรือที่บางครั้งเรียกว่า "กินดูรี" เป็นมากกว่าการรับประทานอาหารร่วมกัน แต่เป็น ประเพณี อันงดงามและมีความหมายลึกซึ้งในวัฒนธรรมของพี่น้องชาวมุสลิมในภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมมลายู ประเพณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการแบ่งปัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความสามัคคีอันเป็นเอกลักษณ์
กินนูหรี (กินดูรี) มนต์เสน่ห์แห่งการแบ่งปันและความสามัคคีในวิถีมุสลิมใต้ Gin Nuri (or Gin Duri) is a Communal Meal Tradition among Southern Thai Muslims
ลักษณะของประเพณี "กินนูหรี":
- การร่วมโต๊ะอาหารอย่างไม่เป็นทางการ: หัวใจสำคัญของกินนูหรีคือการรวมตัวกันรับประทานอาหาร โดยไม่มีพิธีรีตองหรือการจัดที่นั่งที่เคร่งครัด อาหารหลากหลายชนิดจะถูกนำมาวางบนโต๊ะยาว บนพื้น หรือบนสำรับ แล้วทุกคนจะนั่งล้อมวง พูดคุย และรับประทานอาหารร่วมกันอย่างเป็นกันเอง
- อาหารหลากหลายด้วยน้ำใจ: อาหารที่นำมาในงานกินนูหรีมักจะมาจากความร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชน แต่ละบ้านอาจจะช่วยกันปรุงอาหารคนละอย่างสองอย่าง หรือเจ้าภาพอาจจะเป็นผู้จัดเตรียมทั้งหมด ขึ้นอยู่กับกำลังและความพร้อม สิ่งสำคัญคืออาหารที่นำมานั้นปรุงด้วยความตั้งใจและแบ่งปันด้วยใจจริง
- บรรยากาศแห่งการเกื้อกูล: นอกจากการรับประทานอาหารแล้ว งานกินนูหรียังเป็นโอกาสให้ผู้คนในชุมชนได้พบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนข่าวสาร และแสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ บางครั้งอาจมีการช่วยเหลือเจ้าภาพในการจัดเตรียมงาน หรือมีการพูดคุยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
วัตถุประสงค์ของ "กินนูหรี":
การจัดงานกินนูหรีมีวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย แต่โดยหลักแล้วมุ่งเน้นไปที่:
- การทำบุญและอุทิศส่วนกุศล: เป็นการแสดงความกตัญญูต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยการเลี้ยงอาหารและขอพรให้พวกเขา บางครั้งก็เป็นการทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
- การเสริมสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน: กินนูหรีเป็นโอกาสอันดีที่สมาชิกในชุมชนจะได้มาพบปะ สานสัมพันธ์ และกระชับความสามัคคี การได้ใช้เวลาร่วมกัน รับประทานอาหารร่วมกัน ช่วยลดช่องว่างและสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกัน
- การเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษ: งานกินนูหรีอาจถูกจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เช่น การแต่งงาน การเกิด การขึ้นบ้านใหม่ หรือวันสำคัญทางศาสนา เป็นการแบ่งปันความสุขและสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกัน
- การแสดงความเอื้อเฟื้อและแบ่งปัน: การจัดเลี้ยงอาหารเป็นการแสดงออกถึงความมีน้ำใจและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของผู้จัดงานที่มีต่อสมาชิกในชุมชน เป็นการแบ่งปันความสุขและความอิ่มอร่อยร่วมกัน
ความสำคัญของ "กินนูหรี":
ประเพณี "กินนูหรี" มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมมุสลิมในภาคใต้ เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญในการ:
- ธำรงรักษาวัฒนธรรมและประเพณี: เป็นการสืบทอดวัฒนธรรมอันดีงามจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้เยาวชนได้เรียนรู้และซึมซับคุณค่าของประเพณี
- เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน: การรวมตัวกันในงานกินนูหรีช่วยสร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในชุมชน
- ส่งเสริมคุณธรรมทางศาสนา: สอดคล้องกับหลักการของศาสนาอิสลามที่เน้นย้ำเรื่องการทำทาน การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน
- เป็นเอกลักษณ์ของสังคมพหุวัฒนธรรม: ในบริบทของสังคมไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรม "กินนูหรี" เป็นกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและการเคารพซึ่งกันและกัน
"กินนูหรี" ที่ตำบลท่าข้าม: สีสันแห่งพหุวัฒนธรรมในงานวัฒนธรรมเดือน ๕
ตำบลท่าข้าม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่แสดงให้เห็นถึงความงดงามของสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างเด่นชัด ด้วยการอยู่ร่วมกันของพี่น้องชาวไทยพุทธและมุสลิมอย่างกลมเกลียว ในงาน "วัฒนธรรมเดือน ๕" หรือ "งานลากพระเดือน ๕" ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม (อบต.ท่าข้าม) โดยการนำของ นายกสินธพ อินทรัตน์ ได้สอดแทรกประเพณี "กินนูหรี" เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความสามัคคีของคนในชุมชน
ลักษณะพิเศษของ "กินนูหรี" ในงานวัฒนธรรมเดือน ๕ ที่ตำบลท่าข้าม:
- จัดขึ้นหลังกิจกรรมทางศาสนาพุทธ: การจัดงานกินนูหรีในวันที่สองของงานวัฒนธรรมเดือน ๕ ภายหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมสำคัญทางศาสนาพุทธ เช่น การลากพระและกิจกรรมอื่น ๆ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติและเคารพต่อขนบธรรมเนียมประเพณีของทั้งสองศาสนา
- ประเพณี "ทูนถาด" ก่อน "กินนูหรี": สิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือการปรากฏของประเพณี "ทูนถาด" ก่อนที่จะเริ่มการรับประทานอาหารแบบกินนูหรี โดยผู้ร่วมงานจะนำพานหรือถาดอาหารมาทูนไว้บนศีรษะ ซึ่งอาจเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่มีเอกลักษณ์ในท้องถิ่น แสดงให้เห็นถึงความเคารพและความตั้งใจในการนำอาหารมาร่วมแบ่งปัน
- การร่วมโต๊ะอาหารข้ามศาสนา: จุดที่แสดงถึงความเป็นพหุวัฒนธรรมอย่างชัดเจนคือ การที่พี่น้องชาวไทยพุทธ ไม่ว่าจะเป็นนายก อบต. พนักงาน อบต. หรือคนในชุมชน สามารถเข้าร่วมรับประทานอาหารในงานกินนูหรีได้อย่างอิสระ ภายหลังจากการประกอบพิธีสวดขอพร "ดุอาอ์" ตามหลักศาสนาอิสลาม เป็นภาพที่สะท้อนถึงความสามัคคี การเปิดใจ และการอยู่ร่วมกันอย่างฉันท์พี่น้อง
- วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมพหุวัฒนธรรม: การจัดงานกินนูหรีในบริบทนี้มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในการส่งเสริมและแสดงออกถึงความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมของตำบลท่าข้าม เป็นการสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพี่น้องชาวไทยพุทธและมุสลิม
โดยสรุป:
ประเพณี "กินนูหรี" ที่ตำบลท่าข้ามในงานวัฒนธรรมเดือน ๕ ไม่ได้เป็นเพียงการสืบทอดธรรมเนียมปฏิบัติของพี่น้องชาวมุสลิมเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข การเคารพซึ่งกันและกัน และความสามัคคีของชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เป็นภาพสะท้อนที่งดงามของสังคมไทยที่เข้มแข็งด้วยความเข้าใจและไมตรีจิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น