แสงไฟนีออนสาดส่องลงบนโต๊ะทำงานที่ว่างเปล่า เงาของพัดลมเพดานที่หมุนวนช้าๆ เหมือนจะเต้นรำไปตามจังหวะของความเงียบที่น่าขนลุก
ฉันคือพนักงานคนสุดท้ายที่ยังคงอยู่ในสำนักงานแห่งนี้ในคืนที่ฝนตกหนัก
เสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาแต่ชัดเจนดังขึ้นจากทางเดิน ฉันเงี่ยหูฟังอย่างระมัดระวัง หัวใจเต้นรัวราวกับกลองศึก เสียงนั้นค่อยๆ ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา... จนกระทั่งหยุดลงตรงหน้าประตูห้องทำงานของฉัน
ฉันกลั้นหายใจ เงียบสนิท ราวกับว่าถ้าฉันไม่หายใจ เสียงนั้นก็จะจากไป
"ก๊อก ก๊อก ก๊อก"
เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง แผ่วเบา แต่หนักแน่น
ฉันตัดสินใจลุกขึ้นอย่างช้าๆ เดินไปที่ประตู มือเย็นเฉียบเหงื่อซึม ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเปิดประตูออก
ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น
ฉันมองไปรอบๆ ทางเดินว่างเปล่า มีเพียงแสงไฟสลัวๆ ที่ส่องลงมาจากเพดาน ฉันรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว
ทันใดนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงหัวเราะ แผ่วเบา แต่ชัดเจน มันดังมาจากด้านหลังของฉัน
ฉันหันกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ทัน
บางสิ่งบางอย่างคว้าแขนของฉันไว้แน่น มันเย็นเฉียบและแข็งทื่อ ฉันพยายามสะบัดมันออก แต่ก็ไม่เป็นผล
ฉันกรีดร้องสุดเสียง แต่เสียงของฉันกลับจมหายไปในความเงียบ
ฉันสะดุ้งตื่น เหงื่อท่วมตัว ใจเต้นแรง ฉันมองไปรอบๆ ห้องนอนที่คุ้นเคย แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง
"แค่ฝันไป..." ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก
ฉันลุกขึ้นจากเตียง เดินไปที่ห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น
ขณะที่ฉันกำลังก้มลงล้างหน้า ฉันก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างในกระจก
มันคือมือของใครบางคน วางอยู่บนไหล่ของฉัน

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น